top of page

คู่มือศึกษาโจรสลัด: ข้อเท็จจริง เอกสาร และการตีความทางประวัติศาสตร์ (Pirates in the Age of Sail)


คู่มือศึกษาโจรสลัด: ข้อเท็จจริง เอกสาร และการตีความทางประวัติศาสตร์

แปลจาก Pirates in the Age of Sail (2007) เขียนโดย Robert J. Antony แปลโดยประสิทธิ์ ตั้งมหาสถิตกุล โครงการจัดพิมพ์คบไฟ พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง กรกฎาคม 2555 จำนวน 248 หน้า ปกอ่อน ISBN: 9786167150253

โจรสลัดถูกวาดภาพทั้งอย่างเลิศลอยในฐานะวีรบุรุษยอดนักสู้และอย่างต่ำทรามในฐานะศัตรูร่วมของมนุษยชาติ โจรสลัดส่วนใหญ่เป็นกะลาสีธรรมดาๆ ที่ถูกความยากจนข้นแค้น และงานอันลำบากตรากตรำเรือวาณิชและนาวีผลักไสให้ต้องกำหนดชีวิตตนเอง สร้างสังคมที่ต่างจากเดิมอย่างถอนราก ดังคำกล่าวของเรดิเกอร์ที่ว่า โจรสลัดได้สร้างโลกที่กลับตาลปัตร โลกประชาธิปไตยในยุคที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย ในต้นศตวรรษที่ 18 โจรสลัดตะวันตกมีการตรากฎหมายขึ้นใช้เอง พวกเขามีระบบเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ ร่างหลักจรรยาบรรณ และการแบ่งสมบัติที่ปล้นมาได้อย่างเท่าเทียม พวกเขาได้ท้าทายกรอบความคิดของยุคสมัยทั้งเรื่องชนชั้น เชื้อชาติ สัญชาติ และเพศ ทว่าทัศนคติเช่นนี้เกิดขึ้นกับโจรสลัดในแห่งอื่นๆ ในยุคอื่นด้วยหรือไม่?

ฟรานซิส เดรค (Francis Drake) เข้ามายังแปซิฟิกในปี 1577 ในฐานะผู้บุกรุกและโจรสลัด เวลานั้นแปซิฟิกถูกพวกสเปนแอบอ้างกรรมสิทธิ์ไปจนหมดแล้ว ขณะที่พวกโปรตุเกสอ้างมหาสมุทรอินเดียและเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่ว่าเป็นของตน ทว่าทั้งสองประเทศก็ไม่เคยมีกำลังเข้มแข็งพอที่จะไล่ชาติอื่นออกจากพื้นที่ที่ตนอ้างกรรมสิทธิ์ได้ เดรคคือชาวอังกฤษคนแรกที่ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปท้าทายอำนาจของสเปนและโปรตุเกส

บัคคาเนียร์แห่งคาริบเบียน (Buccaneer of Caribbean) ผู้เรียกตัวเองว่าภราดรแห่งชายฝั่งทะเล มีชีวิตอิสระและโลดโผนอยู่บนเกาะชายขอบของจักรวรรดิสเปน พวกเขาอยู่กันเป็นคู่ๆ ตามขนบธรรมเนียมที่เรียกว่ามาเตโลตาจ (Matelotage) ซึ่งมีนัยยะหมายถึงการสมรสของเพศเดียวกัน ในแต่ละปีพวกเขาใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการล่าวัวและหมูป่าเวลาที่เหลือไปปล้นเรือ

แมรี รีด (Mary Read: 1685-1721) และแอนน์ บอนนี (Anne Bonny: 1702-1782) คือสลัดสาวที่เลื่องชื่อที่สุดแห่งสมัยของการล่องเรือใบ ทั้งสองแต่งกายเป็นชายมาตั้งแต่วัยเด็ก จนเมื่อออกแสวงหาอิสรภาพและโชคลาภกลางท้องทะเลก็ยังอยู่ในคราบบุรุษเพศ

[con·tin·ue]

ส่วนที่ 1 ภาพรวมประวัติศาสตร์โจรสลัด

บทนำ

"เหยื่อสลัดสังหารเพิ่มขึ้นทั่วโลก" พาดหัวข้าวที่ก่อมโนภาพความกระหายเลือดและฉากบู๊ดุเดือดของโจรสลัดนี้น่าจะถูกหยิบยกมาจากแผ่นข่าวที่ติดตามกำแพงในกรุงลอนดอนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่ความจริงแล้วมันมาจากรายงานของสำนักการเดินเรือสากลหรือ IMB (International Maritime Bureau) เมื่อ ค.ศ. 1999 นี้เอง หลังจากเงียบหายไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 การปล้นเรือได้กลับมาอุบัติขึ้นทั่วโลกอีกครั้ง หลายๆ พื้นที่ที่เกิดการปล้นเรือขึ้นในปัจจุบันนี้เป็นพื้นที่เดียวกับที่เคยมีโจรสลัดชุกชุมเมื่อ 2-3 ศตวรรษที่แล้ว อีกทั้งสาเหตุของการปล้นเรือในปัจจุบันหลายๆ ข้อก็เฉกเช่นเดียวกับในอดีต เรือสินค้าของชาติที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจมักจะใช้เส้นทางทะเลที่เดินผ่านบางพื้นที่ที่เป็นเขตยากจนและด้อยพัฒนาที่สุดของโลก แน่นอนความสมบูรณ์มั่งคั่งที่อยู่คู่ความอดอยากยากไร้ย่อมพากระแสเชี่ยวกรากของโจรสลัดมาด้วยเสมอ ความมั่งคั่งที่เห็นเป็นตัวเป็นตนในรูปของสินค้าและเงินตราอันหลากล้นที่ถูกลำเลียงขนส่งโดยเรือได้ยื่นโอกาสอันงามที่ยั่วกิเลสคนให้ประกอบอาชญากรรม โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ล้าหลังการพัฒนา โจรสลัดวันนี้ไม่ต่างกับวันวานที่มักจะสมคบกับเจ้าหน้าที่ด้วยการติดสินบนแลกกับความคุ้มครอง การฟื้นคืนกลับมาของโจรสลัดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เชิญชวนเราให้มานั่งสอบสวนปัญหานี้ด้วยการย้อนกลับไปมองจากแง่มุมประวัติศาสตร์

โจรสลัดมีความน่าสนใจอยู่แล้วโดยตัวมันเอง กลุ่มคนเหล่านี้ติดตรึงอยู่ในจินตนาการของนักเขียนและนักอ่านมาตลอดทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะถูกวาดภาพเป็นนักผจญภัย วีรกบฏ หรือวายร้ายจอมเพชฌฆาต แต่โจรสลัดทั้งในความเป็นจริง และในนิยายก็ยังคงเป็นบุคคลที่ชวนพิศวงหลงใหลสำหรับทุกผู้คนจนปัจจุบัน แม้ยุคทองของการปล้นเรือจะสิ้นสุดลงไปแล้วกว่าร้อยปีก็ตาม หนำซ้ำเรื่องราวเกี่ยวกับโจรสลัดไม่ว่าจะในรูปการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือนวนิยายยังได้รับความนิยมยิ่งกว่าก่อนเสียอีก ลองลัดเลาะเข้าไปตามเครือข่ายใยแมงมุมของโลกไซเบอร์ดูจะพบเห็นรูปธง ขุมทรัพย์ที่ถูกฝัง หรืออาวุธประจำตัวของโจรสลัด รวมทั้งเรื่องราวและชีวประวัติของโจรสลัดชื่อกระฉ่อนในอดีตปรากฏอยู่เกลื่อนกล่นมากมายหลายร้อยเว็บไซต์ การที่โจรสลัดยังคงครองความน่าสนใจอยู่เช่นนี้คงเป็นเพราะอย่างน้อยที่สุดในจินตนาการของคนทั่วไป โจรสลัดมีทั้งภาพของวายร้ายผู้เถื่อนถ่อยและวีรบุรุษผู้กล้าหาญ

อย่างไรก็ดี เราคงมิได้ศึกษาเรื่องโจรสลัดเพียงเพราะว่ามันน่าสนใจเท่านั้น แต่เพราะมันมีความสำคัญด้วย โจรสลัดมีบทบาทสำคัญในก้าวย่างของสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของต้นยุคสมัยใหม่ หนังสือเล่มนี้สำรวจโลกของโจรสลัดในช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงกลางศตวรรษที่ 19 ด้วยมุมมองในระนาบกว้างและลึกของการปล้นเรือทั่วโลกผ่านเหตุการณ์และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เรียกว่าประวัติศาสตร์จากข้างล่าง เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้สำรวจตรวจสอบโจรสลัดตามสภาวะที่เป็นจริง และบูรณะจินตภาพขึ้นใหม่ทั้งในด้านชีวิตประจำวันและความมุ่งหวังของชีวิตโจรสลัด เราจะมองในประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา รวมทั้งเพศสภาพและเพศวิถี หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นภาพรวมประวัติศาสตร์ ส่วนที่ 2 เป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์และกรณีศึกษา ส่วนที่ 3 เป็นความเรียงล่าสุดว่าด้วยการตีความประวัติศาสตร์

ส่วนแรกฉายภาพสังเขปประวัติศาสตร์ของการปล้นเรือทั่วโลกในสมัยของการล่องเรือใบ ไล่ตั้งแต่โจรสลัดตะวันตกคอร์แซร์แห่งเมดิเตอร์เรเนียน โจรสลัดจีน โจรสลัดทะเลแห่งเอเชียอาคเนย์ มาจนถึงโจรสลัดยุคปัจจุบัน ญัตติส่งท้ายทุกหัวข้อก็คือ เราจะนิยามการกระทำอันเป็นโจรสลัดตามบริบทของประวัติศาสตร์และของโลกในยุคสมัยของมันอย่างไร เพราะแม้ว่าดูเหมือนเราทุกคนจะรู้ (ตามๆ กันมา) ว่าโจรสลัดมีหน้าตาอย่างไร แต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะนิยามความเป็นโจรสลัด ค่าที่ใช้เรียกโจรสลัดเองก็มีจนนับไม่หวาดไม่ไหว Privateersmen, Buccaneer, Corsair, Freebooter, Ladrones, Seadog, Wako, Dayaks, Commerce Raider และอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่อาจมองโจรสลัดด้วยกรอบที่ตายตัว แต่ต้องมองด้วยมโนทัศน์ที่ยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวไปตามชั้นความหมายที่ยึดโยงกับกาลเทศะและวัฒนธรรม

เพราะโจรสลัดได้จำกัดอยู่เฉพาะในโลกตะวันตกจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษาเรื่องนี้ด้วยมิติที่ครอบคลุมทั่วโลก ความชุกชุมของการปล้นเรือในปัจจุบันยังคงไม่ต่างอะไรจากอดีตที่กระจุกอยู่ในน่านน้ำแถบเอเชีย ในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 เอเชียอยู่ขอบสุดของแถบชุมโจรสลัดที่ขยายไปทุกทางจากแคริบเบียนถึงทะเลจีนใต้ ในต้นศตวรรษที่ 18 อันเป็นช่วงที่การปล้นเรือในตะวันตกเฟื่องสุดขีด จำนวนโจรสลัดมีไม่เคยเกินไปกว่า 5,500 คน ทว่าในจีนในยุคเฟื่องฟูตอนเริ่มต้นศตวรรษที่ 19 จำนวนโจรสลัดไม่เคยต่ำกว่า 7 หมื่นคน โจรสลัดคือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่ยังคงดำรงอยู่จนปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องศึกษาในบริบทของทั้งโลก

บนเรือโจรสลัดคือโลกใบหนึ่งในขนาดจำลอง เราสามารถพบเห็นได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กที่มีภูมิหลังมาจากหลากหลายสังคม วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ และเชื้อชาติ ผู้ที่มาเป็นลูกเรือโจรสลัดก็มีสารพัดจำพวก ไม่จำเพาะแต่คนพาลชั่วช้าและพวกขบถสังคมเท่านั้น ยังมีกะลาสีและชาวประมงทั่วไปที่หากินสองทางทั้งอาชีพถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้เรายังสำรวจลึกไปถึงประเด็นคำถามที่มีการตั้งวงถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับสังคมยูโทเปีย ความสัมพันธ์ทางเพศ และเพศวิถีในหมู่โจรสลัด อาทิ โจรสลัดมีการจัดระเบียบสังคม มีความเป็นประชาธิปไตยและเสมอภาคที่บังเกิดเป็นโลกที่กลับตาลปัตรจริงหรือ? โจรสลัดหญิงมีสิทธิและได้รับผลตอบแทนเท่าเทียมผู้ชายจริงหรือ? คำถามเหล่านี้มักจะถูกวางอยู่เพียงแค่ในบริบทของโจรสลัดตะวันตก แต่สำหรับโจรสลัดเอเชียและภูมิภาคอื่นล่ะ พวกเขาประพฤติและมีความเชื่อเฉกเช่นเดียวกับโจรสลัดตะวันตกหรือไม่? หนังสือเล่มนี้คัดสรรเอกสารประวัติศาสตร์ชุดหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวที่เอ่ยถึงในส่วนของการเล่าประวัติศาสตร์ในภาพรวมและในความเรียงส่วนสุดท้าย

นอกจากนี้เรายังได้สำรวจตรวจสอบบทบาทสำคัญของโจรสลัดในการก่อรูปประวัติศาสตร์ต้นสมัยใหม่ในหลากหลายมิติและนิยามของมัน ยกตัวอย่างเช่น ในยุคของการก่อร่างสร้างจักรวรรดิและการขับเคี่ยวเชิงพาณิชย์อย่างดุเดืิอด รัฐเกิดใหม่และยังอ่อนแออยู่จะให้การหนุนหลังโจรสลัด (ในนามของไพรเวเทียร์หรือสลัดหลวง) เพื่อเป็นช่องทางในการขยายและเสริมอำนาจทางการเมืองและฐานทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในรัฐต่างๆ ตามชายฝั่งบาร์บารี รายได้หลักของคลังหลวงมาจากโจรสลัดคอร์แซร์ และกัปตันของโจรสลัดเองก็เป็นสมาชิกคนสำคัญของชนชั้นปกครอง ในเวียดนามปลายศตวรรษที่ 18 กบฏไต้เซินส่งเสริมโจรสลัดจีนที่ช่วยเหลือด้านการเงินในการต่อสู้กับผู้ปกครองทรราชของพวกเขา การปล้นเรือเป็นยุทธวิธีต้นทุนต่ำที่ชาติเล็กๆ นำมาใช้ต่อกรกับชาติที่มีกำลังอำนาจเหนือกว่าและร่ำรวยกว่า โจรสลัดคือผู้ทำรายได้ให้แก่ประมุข ขุนนาง และนายทุน ขณะเดียวกันก็ช่วยตัดกำลังศัตรูด้วยการโจมตีเรือสินค้าและถิ่นฐานบ้านเรือนของชาตินั้น

รัฐบาลชาติตะวันตกเองก็พยายามจะจำแนกสลัดหลวงออกจากโจรสลัดทั่วไปให้ชัดเจนในทางกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วเส้นแบ่งนั้นมักจะคลุมเครือ รัฐบาลอังกฤษในฐานะชาติไล่หลังของการแข่งขันสร้างจักรวรรดิให้การสนับสนุนนักผจญภัยอย่างฟรานซิส เครก และเฮนรี มอร์แกน ในการปล้นเรือมหาสมบัติของสเปนเพื่อแลกกับส่วนแบ่งสมบัติที่ปล้นได้ ขณะที่สลัดเหล่านี้กลับบ้านเกิดในฐานะวีรบุรุษของชาวอังกฤษ แต่สำหรับชาติที่ตกเป็นเหยื่ออย่างสเปนแล้ว คนเหล่านี้มิใช่อะไรอื่นนอกจากโจรโฉดชั่ว ในส่วนของแถบถิ่นวิเวกอย่างเอเชียอาคเนย์ในปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 การบุกปล้นทางทะเลซึ่งได้รับการอนุญาตจากรัฐคือวิถีชีวิตของชาวอิรานุนและบาลังกิงกิ พวกเขาถือว่ามันเป็นอาชีพมีเกียรติที่มิใช่เฉพาะสำหรับบุคคลเท่านั้น แต่สำหรับคนทั้งชุมชนเลยทีเดียว แม้เจ้าอาณานิคมและนักประวัติศาสตร์ในยุคต่อมาจะตีตราพวกเขาว่าเป็นโจรสลัด แต่ในความเป็นจริง กิจกรรมของพวกเขามีความซับซ้อนและถึงขั้นเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ และชาติพันธุ์ที่เพิ่งก่อตัวขึ้นของภูมิภาค แม้โดยส่วนใหญ่แล้วโจรสลัดมิได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากรัฐใดๆ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องศึกษาพวกกลุ่มที่ได้รับอนุญาต เพราะโจรสลัดเหล่านี้เองจะบอกเราได้ถึงบทบาทของการปล้นเรือในการสร้างรัฐและเศรษฐกิจโลก

ในส่วนของเอกสารทางประวัติศาสตร์อันเป็นองค์ประกอบหลักของหนังสือมีหลายชิ้นที่ผู้เขียนคือสมาชิกแก๊งโจรที่มีตัวตนจริง ขณะที่บางชิ้นเขียนโดยประจักษ์พยานและเจ้าหน้าที่ของทางการ เอกสารต่างๆ เหล่านี้มาจากหลากหลายแหล่งข้อมูล ได้แก่ แฟ้มคดีอาชญากรรม การให้ปากคำตามกฎหมายและคำสารภาพของโจรสลัด รายงานของรัฐบาล บันทึกความทรงจำของเชลย แผ่นประกาศข่าว ใบปลิว และกระทั่งโคลงกลอน แหล่งข้อมูลปฐมภูมิเหล่านี้คือหน้าต่างที่เปิดสู่โลกของโจรสลัดในอดีต ผู้เขียนได้คัดสรรเอกสารแต่ละชิ้นที่อ่านเข้าใจง่ายและสะท้อนภาพได้แจ่มชัด หนังสือเชิงบันทึกคดีเล่มนี้จึงเสมือนให้ผู้อ่านได้สวมรองเท้านักประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้เราได้วิเคราะห์ชุดข้อมูลที่สัมพันธ์กันและบางครั้งก็ขัดแย้งกัน เพื่อไขปัญหาเชิงประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้ผู้อ่านได้คิดอย่างรอบด้าน ได้แยกแยะข้อเท็จจริงออกจากข้อคิดเห็นที่ตามมาในงานวิจัยท้ายเล่ม ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นแหล่งความรู้ที่จำเป็นต่อการลับคมทักษะเชิงวิเคราะห์ในการกำหนดกรอบและแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับกาลสมัย

ไพเรต ไพรเวเทียร์ และบัักคาเนียร์

คอร์แซร์ ขบถ และทาสในเมดิเตอร์เรเนียน

โจรสลัด พ่อค้า และกบฏแถบชายฝั่งจีน

โจร นักรบ และพ่อค้าในเอเชียอาคเนย์

โจรสลัดในโลกปัจจุบัน

ส่วนที่ 2 เอกสารทางประวัติศาสตร์

โจรสลัดตะวันตก

เอกสาร 1: หนังสือแต่งตั้งกัปตันโพลวแมนเป็นสลัดหลวง ค.ศ. 1703

เอกสาร 2: คำให้การของสองเชลยของจอมสลัดฟรานซิส เดรก ค.ศ. 1579

เอกสาร 3: วิถีของบักคาเนียร์

เอกสาร 4: คำให้การของอดัม บัลด์ริดจ์ บันทึกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1699

เอกสาร 5: คำให้การกล่าวหาเฮนรี เอฟเวอรี ของจอห์น ดันน์

เอกสาร 6: หนังสือโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกัปตันคิดด์ ค.ศ. 1695

เอกสาร 7: การกักตัวกัปตันวิลเลียม สเนลเกรฟ เป็นเชลย ค.ศ. 1719

เอกสาร 8: ชีวประวัติของแมรี รีด

เอกสาร 9: กฎข้อบังคับของโจรสลัด

คอร์แซร์แห่งเมดิเตอร์เรเนียน

เอกสาร 10: หนังสือแต่งตั้งโจรสลัดคอร์แซร์แห่งมอลตาที่ออกให้แก่อัศวินชาร์ลส์ เด วิลเลอร์ส ค.ศ. 1696

เอกสาร 11: ฉากหนึ่ง ณ เอสแทมเปเลีย

เอกสาร 12: จอห์น วอร์ด ขบถนอกรีตและคอร์แซร์แห่งยุโรป

เอกสาร 13: การกักตัวจอห์น ฟอสส์ เป็นเชลยในแอลเจียร์ ค.ศ. 1792-1796

โจรสลัดแห่งชายฝั่งทะเลจีนใต้

เอกสาร 14: กรณีของโจรสลัดวาโกะในคริสต์ศตวรรษที่ 16

เอกสาร 15: โจรสลัดเจิ้งจี่ล่ง

เอกสาร 16: คำให้การในคดีแก๊งเหอซิ่ง ค.ศ. 1782

เอกสาร 17: ไช่เฉียนและแม่นางไช่เฉียน ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19

เอกสาร 18: พระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับปัญหาโจรสลัด ค.ศ. 1803

เอกสาร 19: ข้อตกลงร่วมกันของโจรสลัดจีน ค.ศ. 1805

เอกสาร 20: ลำนำไถ่ตัว

เอกสาร 21: บันทึกของเชลยริชาร์ด กลาสส์พูล ค.ศ. 1809

เอกสาร 22: หนังสือคำร้องเพื่อขอมอบตัว ค.ศ. 1810

โจรทะเลแห่งเอเชียอาคเนย์

เอกสาร 23: ประวัติศาสตร์มุขปาฐะว่าด้วยการปล้นชองชาวดายัคทะเล

เอกสาร 24: โจรสลัดอามัว

เอกสาร 25: เกาะขี้ขโมยของเดรก ค.ศ. 1579

เอกสาร 26: การปล้นทาสในแถบหมู่เกาะซูลู ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19

เอกสาร 27: โจรสลัดแห่งลิงกะและรีเยา ค.ศ. 1792-1796, 1818

เอกสาร 28: ใบปลิวของวิลเลียม เอ็ดเวิร์ดส์ ค.ศ. 1845

ส่วนที่ 3 การตีความ

ผู้หญิงในโลกโจรสลัด - โจ สแตนลีย์

อุทกรัฐและลิเบอร์เตเลีย: มิติยูโทเปียของโจรสลัดในมหาสมุทรแอตแลนติกต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18: มาร์คัส เรดิเกอร์

วาทกรรมไร้วิวาทะ: ภาพเสมือนของการกระทำอันเป็นโจรสลัดในดินแดนอาณานิคมอินโดนีเซีย ค.ศ. 1816-1825: โจเซฟ คัมโป

บรรณานุกรมกถา

 

"Reading make a full man, conference a ready man, and writing an exact man. การอ่านทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ การเสวนาทำให้เป็นคนที่พร้อม และการเขียนทำให้เป็นคนที่เที่ยงตรง" - Francis Bacon (1561-1626)

Reading & Working: ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้! ยิ่งทำงานก็ยิ่งเก่ง! หนังสือแปลคัดสรรบนชั้นหนังสือส่วนตัว Beautiful Quietness: เงียบแต่ไม่เหงา! ดินแดนแห่งการอ่านและพื้นที่ทางความคิด โลกของนักอ่านและพรมแดนแห่งความรู้ การอ่านสะท้อนความคิด ความคิดสะท้อนตัวตน ตัวตนสะท้อนจิตวิญญาณ Changing Lives, One Book at a Time ห้องสมุดมีชีวิต ...ชีวิตดีๆ ทีละเล่ม อ่านเถิดชาวไทย! การอ่านคือรากฐานที่สำคัญ [อากาศ อาหาร การอ่าน] If you don't like to read, you haven't found the right book. Readers of the World. pruetsara.wixsite.com

 
bottom of page